AI ช่วยทำงานในธุรกิจอะไรได้บ้าง แนะนำการทำงานของ AI ในธุรกิจยุคปัจจุบัน

AI กับการช่วยงานธุรกิจ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โลกทุกวันนี้ เป็นโลกของ AI ที่เริ่มมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันมากขึ้น แม้แต่ในหลายธุรกิจก็ยังได้มีการนำปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้เพื่อผลักดันยอดขายและการทำงานกันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า มีธุรกิจหลายแขนง ที่เริ่มปรับตัวมาใช้ AI ช่วยทำงานกันแล้ว  วันนี้ เราจะมาแนะนำ AI ว่าใช้ประโยชน์ในธุรกิจไหนได้บ้าง และธุรกิจไหนที่ทำแล้ว ประสบความสำเร็จ ไปดูกันเลยค่ะ!

AI มีส่วนช่วยเหลือในธุรกิจอย่างไรบ้าง

AI ที่ใช้ในระบบโรงงาน

ระบบ AI ได้ถูกนำมาใช้ในระบบการจัดการโรงงาน โดยเฉพาะในส่วนของ Business & Technology ที่ได้มีการนำเครื่องจักรที่มีการขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งสามารถช่วยให้ธุรกิจมีการพัฒนาและเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 

  • เป็นการลดต้นทุนการผลิต เพื่อก่อให้เกิดผลกำไรมากขึ้น 
  • ช่วยลดข้อผิดพลาดในการผลิต 
  • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

AI ที่ใช้ในด้านการเงิน การธนาคาร และประกันภัย

ระบบ AI ที่ถูกนำมาใช้ในด้านการเงิน การธนาคาร และประกันภัย ทำให้มีการพัฒนาที่รวดเร็วและก้าวหน้ามากขึ้น และยังทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็น

  • การยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสมัครใช้บริการด้านการเงินต่าง ๆ
  • การบริการตรวจสุขภาพทางการเงิน
  • การแจ้งเตือนเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ
  • การให้บริการจัดการบริหารการเงิน
  • การวิเคราะห์ศักยภาพด้านการเงิน เพื่อประโยชน์ในการลงทุน
  • การอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าผ่านระบบ AI แชทบอท คลอด 24 ชั่วโมง
  • ใช้ AI เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ในการเคลมประกันผ่านทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว 
  • ใช้ในการคาดการณ์และประเมินความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ

AI ที่ใช้ในระบบการขนส่ง

เช่นเดียวกับระบบการขนส่ง ทั้งแบบส่วนบุคคลและด้านโลจิสติกส์ ต่างก็ใช้ระบบ AI มาช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น

  • การนำระบบ AI มาเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า
  • ช่วยวางแผนกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางการเดินทาง หรือการจัดเก็บสินค้าบนรถ เป็นต้น
  • ระบบ AI สามารถคาดการณ์อุบัติเหตุที่อาจะเกิดขึ้นได้ แสดงผลผ่านบันทึกการขับขี่
  • สามารถจัดเก็บเอกสารแบบ Invoice โดยดึงข้อมูลได้แบบอัตโนมัติ

AI ที่ถูกนำมาใช้ด้านการแพทย์

เป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยโรคและการรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย

  • ช่วยลดข้อผิดพลาดในการวินิจฉัยโรค โดยเรียนรู้จากข้อมูลเชิงลึกมาวิเคราะห์
  • สามารถช่วยตรวจโรคในระยะแรกได้ดี
  • สามารถพัฒนาตัวยาใหม่ๆ โดยให้ AI มีส่วนในการวิเคราะห์และวิจัย
  • พัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ ในการรักษา เช่น ประสาทเทียม และอวัยวะเทียม เป็นต้น
  • ช่วยปรับแผนการดูแลสุขภาพ ให้ตรงจุดมากขึ้น ตามลักษณะอาการของผู้ป่วย ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น

AI ถูกนำมาใช้ในหน่วยงานรัฐ

ระบบ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในหน่วยงานของรัฐ ได้แก่

  • ระบบการยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้การติดต่อเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น
  • ช่วยในการจัดเอกสาร ทำให้ง่ายต่อการค้นหาข้อมูล
  • ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการตอบคำถามของผู้ใช้บริการด้วยระบบแชมบอท  ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ AI ช่วยเพิ่มยอดขาย

  • ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ “Fashion Sense”
    ใช้ AI ช่วยในการแนะนำเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับรสนิยมของลูกค้าแต่ละคน ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 25% และอัตราการคืนสินค้าลดลงถึง 40%
  • บริษัทขนส่งสินค้า “FastTrack Logistics”
    ใช้ AI ในการวางแผนเส้นทางการขนส่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ 20% และส่งมอบสินค้าเร็วขึ้นถึง 15%
  • คลินิกทันตกรรม “SmileBright”
    มีการใช้ AI  ช่วยวินิจฉัยปัญหาสุขภาพฟันและช่องปาก ทำให้มีความแม่นยำในการวินิจฉัยเพิ่มขึ้น 95% และลดเวลาในการวิเคราะห์ลงได้ถึง 50% เลยทีเดียว
  • บริษัทอสังหาริมทรัพย์ “HomeMatch”
    ใช้ระบบ AI วิเคราะห์แนวโน้มตลาดและจับคู่ลูกค้ากับที่พักที่เหมาะสม สามารถปิดการขายเพิ่มขึ้น 35% และลูกค้ามีความพึงพอใจสูงขึ้น 40%
  • ร้านกาแฟ “BrewIntelligence”
    ใช้ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและการตลาด โดยปรับปรุงเมนู วางแผนโปรโมชั่น และจัดการสต็อก พบว่ามียอดขายเพิ่มขึ้น 20% และช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานลดลงถึง 15%
  • บริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์ “Smart Furniture”
    ใช้ AI ในระบบควบคุมคุณภาพอัตโนมัติ  โดยตรวจสอบคุณภาพสินค้าในสายการผลิต  ซึ่งสามารถลดอัตราของเสียลงได้ 60% และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้ามากขึ้น 30%
  • สตูดิโอออกแบบกราฟิก “Design Genius”
    ใช้ AI เป็นเครื่องมือสร้างภาพและออกแบบอัตโนมัติ วิธีนี้สามารถลดเวลาในการทำงานลง 40% และรับงานได้มากขึ้น 25%
  • บริษัทประกันภัย “SafeGuard Insurance”
    มีการใช้ AI  เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงและตรวจจับการฉ้อโกง สามารถลดการจ่ายค่าสินไหมที่ไม่เหมาะสมลง 35% และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า 20%
  • ฟาร์มอัจฉริยะ “Smart Harvest”
    มีการใช้ AI ในระบบควบคุมการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวอัตโนมัติ สามารถเพิ่มผลผลิตขึ้น 30% และลดการใช้ทรัพยากรลงได้ถึง 25%เลยทีเดียว

จากตัวอย่างข้างต้น ทำให้เราเห็นได้ว่า AI ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก ทั้งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคเอง และในส่วนของผู้ประกอบการ ที่จะต้องเรียนรู้หลักการและนำ AI มาใช้พัฒนาธุรกิจของตนได้อย่างถูกจุด เพื่อยกระดับมาตรฐานของธุรกิจและนำไปสู่ผลกำไรที่มากขึ้น


สนใจติดต่อผลิตสินค้าแพคเกจจิ้ง และอุปกรณ์ออกบูธ
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook

Comment Box

บทความดีๆที่แนะนำ

การทำสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเองเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเสริม...

สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ SME ที่ต้องการทราบระยะเวลา ในการท...

ผู้ประกอบธุรกิจ SME ที่อยากสั่งผลิตสติ๊กเกอร์คาดกล่องอา...

อาการหมดไฟทำงานเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย แต่สามารถแก...

สมัครงาน กับ Tumtook

กรอกข้อมูลให้สมบูรณ์