การทำธุรกิจออนไลน์ปัญหาที่พบค่อนข้างบ่อยนั่นก็คือ การถูกปลอมแปลงสินค้าหลอกลวงหรือแอบอ้างในธุรกิจนั่นเอง ซึ่งจะส่งผลต่อผู้บริโภคและเจ้าของธุรกิจรวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวม เพราะการถูกปลอมแปลงหรือถูกแอบอ้างสินค้ามักเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิตได้ โดยส่งผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์อย่างมาก ร้ายแรงถึงขั้นธุรกิจพังและเจ๊งได้เลยทีเดียว
สนใจติดต่อผลิตสินค้าแพคเกจจิ้ง และอุปกรณ์ออกบูธ
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook
รู้เท่าทันวิธีการปลอมแปลงธุรกิจออนไลน์ของมิจฉาชีพ
ช่องทางการขายในรูปแบบธุรกิจออนไลน์ นับว่าเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขวางมากที่สุด จึงถือเป็นช่องโหว่ที่ทำให้มิจฉาชีพหลอกขายของปลอมแปลงธุรกิจเพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ และวิธีการที่มิจฉาชีพเหล่านี้มักใช้ในการปลอมแปลงสินค้านั้น มีดังต่อไปนี้
1.การสร้างเว็บไซต์ปลอมที่เหมือนกับของจริง
การขายของหรือการทำธุรกิจในออนไลน์ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีเว็บไซต์สำหรับการกดสั่งสินค้าหรือให้ข้อมูล จึงทำให้มิจฉาชีพเหล่านี้สร้างเว็บไซต์ที่คล้ายกับธุรกิจของจริงขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือชื่อเว็บไซต์ ดังนั้นต้องสังเกตการสะกดคำให้ดี เพราะเว็บไซต์ปลอมนั้นจะใช้ตัวอักษรที่ผิดไปจากเว็บของจริง รวมถึง URL ของเว็บไซต์จะมีความยาวและซับซ้อนมากกว่า ซึ่งวิธีการป้องกันคือ
- เจ้าของธุรกิจออนไลน์จะต้องมีการอัปเดตเว็บไซต์อยู่เสมอ
- ควรใช้ระบบป้องกันเว็บไซต์ควบคู่ไปด้วย เช่น Firewall หรือการติดตั้ง SSL Certificate
2.การสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียปลอม
การขายในรูปแบบออนไลน์ปัจจุบันนี้มีทั้งช่องทาง Facebook , Instagram , TikTok , shopee , Lazada อีกหลายแพลตฟอร์มทางโซเชียลมีเดียมากมาย ซึ่งมิจฉาชีพมักจะใช้การปลอมแปลงทั้งชื่อ รวมถึงรูปภาพและสินค้าภายในที่คล้ายกับของจริง ดังนั้นถ้ามีคนปลอมแปลงธุรกิจของคุณในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ให้แจ้งรายงานบัญชีปลอมไปทางแพลตฟอร์มทันที และควรยืนยันบัญชีโซเชียลมีเดียตามขั้นตอนให้ครบถ้วน หมั่นคอยตรวจสอบการปลอมแปลงอยู่เสมอ
3.เสนอขายสินค้าในราคาต่ำกว่าปกติ
ของปลอมหรือธุรกิจที่มีการปลอมแปลง สินค้าหรือรูปแบบการบริการจะคล้ายกับของจริงอย่างมาก โดยจะมีการขายราคาต่ำกว่าปกติจนน่าตกใจ เช่น โลชั่นทาผิวแบรนด์แท้ค่ะอยู่ที่ 1250 บาท แต่มิจฉาชีพในโลกออนไลน์จะนำของปลอมมาขายในราคาเพียงแค่ 290 บาทเป็นต้น ดังนั้นให้สังเกตจากร้านค้าของแท้ก่อนการสั่งซื้อเพื่อไม่ให้ถูกหลอกและได้สินค้าที่ด้อยคุณภาพ ซึ่งถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจให้คุณไปร้องเรียนที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และสำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
แนวทางแก้ปัญหาการโดนปลอมแปลงสินค้าในธุรกิจออนไลน์
อย่าปล่อยให้ปัญหาการปลอมแปลงธุรกิจสินค้าเป็นเรื่องปกติ เพราะสิ่งนี้จะเป็นเหมือนไฟลามทุ่ง ที่พร้อมทำให้ธุรกิจของคุณนั้นพังได้ทุกเมื่อ ดังนั้นคุณต้องเรียนรู้วิธีการป้องกันและแนวทางการแก้ปัญหาการหลอกขายสินค้าออนไลน์นี้ เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากเลยทีเดียว
การป้องกัน
การป้องกันแนะนำให้ลงทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาหรือการจดลิขสิทธิ์ไว้ก่อน และแนะนำให้มีการติดตามสินค้าด้วยเทคโนโลยี RFID หรือ QR Code บนสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ามากขึ้น ทั้งสามารถตรวจสอบการปลอมแปลงได้ง่ายอีกด้วย
การตรวจจับ
อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่าการปลอมแปลงสินค้าจะอยู่ในรูปแบบของการสร้างเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียขึ้นมาหลอกผู้บริโภค ดังนั้นธุรกิจของคุณจะต้องมีการตรวจสอบเว็บไซต์และบัญชีโซเชียลมีเดียว่ามีการปลอมแปลงเป็นชื่อของธุรกิจคุณหรือไม่ และหมั่นคอยติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการปลอมแปลงสินค้าอยู่เสมอ
การดำเนินการ
เมื่อคุณตรวจสอบพบว่ามีการปลอมแปลงสินค้าในธุรกิจของคุณ อันดับแรกให้คุณแจ้งความกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ทั้งการแจ้งความกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา โดยหากมีการปลอมแปลงธุรกิจจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดเสียหาย ให้คุณดำเนินคดีทางกฎหมายร่วมด้วย ซึ่งให้รวบรวมหลักฐานที่ชัดเจน เช่น
- รูปภาพหรือวิดีโอ
- สินค้าของปลอม
- เอกสารและใบเสร็จ
หลังจากนั้นให้แจ้งธนาคารเพื่อระงับการชำระเงินของบัญชีมิจฉาชีพ และสิ่งสำคัญที่สุดคือการแจ้งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กับผู้บริโภคได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบและเตือนให้ผู้บริโภคระวังกับสินค้าของปลอม
สรุป
ถ้าคุณคือเจ้าของธุรกิจออนไลน์ ปัญหาการลอกเลียนแบบและปลอมแปลงสินค้านั้น เป็นสิ่งที่คุณต้องให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ เนื่องจากในปัจจุบันกลโกงของมิจฉาชีพนั้นมีการพัฒนามากขึ้น ดังนั้นแนวทางการแก้ปัญหาที่ Tumtook ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ ถือเป็นตัวช่วยอย่างดีที่จะทำให้คุณรอดพ้นและปลอดภัยจากการโดนปลอมแปลงสินค้าในโลกออนไลน์ได้
Tumtook คิดถึงงานพิมพ์ คิดถึงทำถูก
