ยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง ส่งผลให้วัตถุดิบอาหารทุกประเภทต่างขึ้นราคากันแบบไม่มีทีท่าว่าจะลง ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องหาทางปรับตัวกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และกระทบต่อค่าครองชีพในชีวิตประจำวันไปด้วย การที่ราคาวัตถุดิบอาหารได้ปรับตัวสูงขึ้นนั้นเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับเจ้าของธุรกิจ ที่ต้องค้นหาวิธีการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อรักษาการทำยอดขายและให้ธุรกิจร้านอาหารยังคงอยู่รอดได้
สนใจติดต่อผลิตสินค้าแพคเกจจิ้ง และอุปกรณ์ออกบูธ
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook
วิธีปรับตัวเมื่อวัตถุดิบอาหารมีราคาแพงขึ้น สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
- ประเมินต้นทุนอย่างละเอียด
ทบทวนรายการวัตถุดิบและต้นทุนอย่างละเอียด เพื่อระบุวัตถุดิบที่มีผลกระทบมากที่สุด เพื่อช่วยให้สามารถวางแผนการสั่งวัตถุดิบทบแทนหรือหาทางแก้ไขได้ - ใช้วัตถุดิบที่ราคาถูกกว่า
พิจารณาหาผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ หรือใช้วัตถุดิบทดแทนที่มีราคาถูกกว่า แต่ยังคงมีคุณภาพใกล้เคียงกัน เพื่อไม่ให้คุณภาพต่างกันจนเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เสียกลุ่มลูกค้าได้ - ปรับสูตรและเมนูให้ประหยัดต้นทุนมากขึ้น
สำหรับธุรกิจอาหาร การปรับสูตรอาหารเพื่อลดปริมาณวัตถุดิบที่แพงขึ้น อาจเป็นวิธีที่ช่วยลดต้นทุนได้มากขึ้น - ปรับราคาสินค้าและบริการ
การขึ้นราคาขายสินค้าตามสภาพตลาดนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจถึงเหตุผล เพื่อไม่ให้กระทบต่อการทำธุรกิจมากนัก - วางแผนการใช้วัตถุดิบให้ดี
การวางแผนและควบคุมสินค้าคงคลังให้ดี จะช่วยลดปริมาณสินค้าที่หมดอายุหรือของเหลือทิ้งได้ ควรสั่งและใช้จำนวนวัตถุดิบให้เหมาะสมเพื่อประหยัดต้นทุนได้อีกทางหนึ่ง - หาวิธีจำหน่ายสินค้าใหม่
พิจารณาวิธีการจำหน่ายสินค้าใหม่ ซึ่งอาจเป็นเมนูอาหารที่มีราคาถูกลง หรือการวางจำหน่ายสินค้าในรูปแบบอื่นเพิ่มเติม เพื่อเป็นทางเลือกในการจำหน่ายมากกว่าการขายสินค้าประเภทเดียว
การแก้ปัญหาเมื่อราคาวัตถุดิบสูงขึ้น อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการหลายๆ อย่างเหมาะสมกับธุรกิจของตัวเอง เพื่อเป็นการลดต้นทุนและเสริมสร้างรายได้ในช่วงวิกฤติ โดยปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการรักษาคุณภาพของอาหารและบริการเอาไว้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการทพธุรกิจอาหารในระยะยาว
Tumtook คิดถึงงานพิมพ์ คิดถึงทำถูก