เคล็ดลับวิธีออกแบบแพคเกจจิ้ง ทำอย่างไร ให้ขายดีขึ้นหลายเท่าตัว

วิธีออกแบบแพคเกจจิ้ง

เมื่อพูดถึงการทำแบรนด์ หรือการทำสินค้า นอกจากการคำนวณต้นทุน กำไร และการทำการตลาด สิ่งที่เป็นปัญหาน่าปวดหัวของเจ้าของแบรนด์หลาย ๆ คนก็คือเรื่องของแพคเกจจิ้งนี่แหละ เพราะการออกแบบแพคเกจจิ้ง จะทำลวก ๆ ก็ไม่ได้ แต่จะทำให้อลังการเกินไป ก็กลัวลูกค้าจะไม่ซื้อ ดังนั้น ภารกิจสำคัญของเจ้าของแบรนด์ส่วนใหญ่ก็คือการออกแบบแพคเกจจิ้งให้ถูกใจลูกค้า ซึ่งจะบอกว่ายาก ก็ยาก แต่จะบอกว่าง่าย ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะต้องอาศัยความเข้าใจ และทักษะการออกแบบที่สำคัญมาก 

ดังนั้นในวันนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจโลกแห่งการออกแบบแพคเกจจิ้ง ทุกอย่างที่คุณควรรู้ เกี่ยวกับการออกแบบแพคเกจจิ้ง ทำอย่างไรให้ดึงสายตาลูกค้า ทำยังไง ให้ลูกค้าตัดสินใจหยิบเลือกสินค้ากันได้ทันทีค่ะ

สนใจติดต่อผลิตสินค้าแพคเกจจิ้ง และอุปกรณ์ออกบูธ
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook

ทำไมแพคเกจถึงสำคัญ

แพคเกจจิ้ง คือสิ่งแรก ที่ลูกค้าจะมองเข้ามาและมองเห็นมัน เปรียบเสมือนกับปกหนังสือ ที่ไม่ว่าเนื้อหาภายในจะดีแค่ไหน แต่หากปกไม่สวยงาม และดึงดูดสายตาลูกค้าไม่ได้ ก็คงหมดโอกาสที่จะถูกเปิดอ่าน จากงานวิจัยพบว่า ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าภายใน 7 วินาที ก่อนที่จะเบนความสนใจไปยังสินค้าตัวอื่น ดังนั้น แพคเกจจิ้งของคุณ จึงต้องสามารถมัดใจและทำให้ลูกค้าสนใจได้ภายในเวลาแค่ 7 วินาที 

ในโลกของการขายของ ยังมีคนเข้าใจผิดว่า สินค้าดี แพคเกจจิ้งไม่ต้องดีก็ได้ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นความเชื่อที่ผิดอย่างมาก เพราะในขณะที่สินค้าของเราคุณภาพสูง และเรามั่นใจว่าลูกค้าจะต้องชอบ ในสายตาของลูกค้าที่มองเข้ามา เห็นแพคเกจจิ้งที่ออกแบบได้ไม่ดี ไม่มีสไตล์ ไม่เป็นเอกลักษณ์ แทนที่ลูกค้าจะได้ลิ้มลองคุณภาพของสินค้า ลูกค้ากลับเลือกสินค้าที่ออกแบบแพคเกจจิ้งดีกว่า และสินค้าของคุณ ก็ต้องนอนรออยู่ในแพคเกจจิ้งต่อไป เพราะอย่างที่บอกว่า “แพคเกจจิ้ง” ก็เหมือนกับ “ปกหนังสือ” นั่นเอง

เท่านั้นยังไม่พอ แพคเกจจิ้ง ยังเหมือนกับหน้าตาของแบรนด์ ที่ยิ่งแพคเกจจิ้งเตะตามากเท่าไหร่ ลูกค้าก็จะยิ่งจำง่าย และในอนาคต ไม่ว่าจะออกสินค้าตัวไหนมา หากยังใช้การออกแบบด้วยสไตล์เดิม ลูกค้าก็มีโอกาสที่จะซื้อซ้ำ เพิ่มจำนวนลูกค้าประจำ หรือที่เรียกว่า Royalty Customer เข้าไปอีก ดังนั้น การออกแบบแพคเกจจิ้ง จึงไม่ใช่แค่การทำให้สวยงาม หรือการทำให้เป็นเอกลักษณ์ แต่มันคือการดึงดูดลูกค้า เจาะเข้าไปในหัวใจของลูกค้า ให้สายตาของลูกค้ามองเข้ามาที่แพคเกจจิ้งของเรา และสงสัยว่า “นี่คืออะไร” เมื่อหยิบแพ็คเกจสินค้ามาดู แม้เพียงเสี้ยววินาที แพคเกจจิ้งที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีของคุณก็จะเริ่มทำงาน ทำให้สินค้าของคุณมีโอกาสถูกถือไปแคชเชียร์และคิดเงินได้มากกว่าสินค้าตัวอื่น ๆ 

เทคนิคการออกแบบแพคเกจจิ้ง

พอเข้าใจความสำคัญของแพคเกจจิ้งแล้ว ภารกิจหลักของเราในวันนี้ก็คือการออกแบบนี่แหละ ซึ่งการออกแบบนั้นก็ไม่ได้แปลว่าต้องอลังการ เอฟเฟค 3D ทะลุมิติ หรือความสวยงามเลอค่าเสมอไป เพราะบางครั้ง แพคเกจที่ดี ก็ไม่ใช่แพคเกจที่สวย แต่เป็น แพคเกจจิ้ง ที่ทำให้ลูกค้าสนใจได้

ต่อไปนี้คือเทคนิคการออกแบบแพคเกจจิ้ง ที่อาจจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าของคุณ 

  • เข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ

แพคเกจจิ้งที่สวย เป็นคำที่อาจจะเข้าใจยาก แต่ถ้าบอกว่า แพคเกจจิ้งที่ถูกใจลูกค้า นี่แหละ ง่ายแน่นอน เพราะลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมายมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน เช่น ลูกค้าที่มีกำลังจ่ายสูง บางทีอาจจะต้องการแพคเกจจิ้งของคุณไว้สำหรับขายสินค้าต่อ หรือเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าแม้จะเป็นมือสอง ดังนั้นจึงควรมีโลโก้แบรนด์ติดไว้ และไม่จำเป็นต้องตกแต่งหรือเพิ่มองค์ประกอบอะไร กลับกัน หากกลุ่มลูกค้าของคุณเป็นเด็ก แพคเกจจิ้งก็อาจจะต้องลงทุนเยอะหน่อย เพื่อให้มีความสวยงาม องค์ประกอบสีดึงดูดสายตาเด็ก

  • เรียบ ง่าย เบา

ความสวยไม่ได้หมายถึงความเยอะ แต่หมายถึงความพอดี ความเหมาะสม การพยายามยัดทุกอย่างไว้ในแพคเกจจิ้งกล่องเดียวอาจจะทำให้สินค้าของคุณดูราคาถูก ดูไม่น่าซื้อ ควรมีเฉพาะรายละเอียดที่สำคัญ เช่น แบรนด์ ประเภทของสินค้า ไซส์ของสินค้า ในขณะที่รายละเอียดไม่จำเป็น หรือสามารถมีได้ที่อื่นที่ไม่ใช่บนแพคเกจจิ้ง เช่น ราคา คำโฆษณาต่าง ๆ 

  • สื่อถึงแบรนด์ของคุณ 

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด แพคเกจจิ้ง แม้ว่าจะแตกต่างกันไปในแต่ละแพ็คเกจสินค้า แต่ก็ควรสื่อถึงแบรนด์ของคุณอย่างชัดเจน การใช้คู่สี การใช้โลโก้ รวมไปถึง mood and tone ต่าง ๆ จะทำให้ลูกค้าติดตา และส่งแบรนด์ของคุณไปอยู่ในความทรงจำของลูกค้าได้โดยไม่รู้ตัว เพิ่มโอกาสการขายในอนาคต และทำให้แบรนด์ของคุณมีตัวตนที่ชัดเจน

แนะนำซอฟแวร์ และ แอปสำหรับออกแบบแพคเกจจิ้งฟรี 

  • Canva: สุดยอดเครื่องมือออกแบบครอบจักรวาลที่น้อยคนจะไม่รู้จัก ด้วยเทมเพลตแพ็คเกจสินค้ามากมายให้เลือกใช้ มาพร้อมกับองค์ประกอบศิลป์ต่าง ๆ ให้ใช้งานกันฟรี ๆ 
  • Adobe Spark: ยกระดับความเป็นมืออาชีพขึ้นมาเล็กน้อย ด้วยฟีเจอร์ที่ลึกกว่า การออกแบบที่หลากหลายมิติมากกว่า แม้จะไม่ได้มาพร้อมกับเทมเพลตฟรีหรือสติ๊กเกอร​สวยงามเหมือนกับ Canva แต่ก็สามารถตอบโจทย์การออกแบบแพคเกจจิ้งได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
  • GIMP: โปรแกรมแก้ไขรูปภาพฟรีที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ขั้นสูงคล้ายกับ Photoshop เหมาะสำหรับการออกแบบแพคเกจจิ้งที่ต้องการความละเอียด
  • Inkscape: โปรแกรมแก้ไขกราฟิกแบบเวกเตอร์ เหมาะสำหรับการออกแบบโลโก้หรือลวดลายของแพคเกจจิ้งด้วยตัวคุณเอง
  • Crello: อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายพร้อมเทมเพลตที่หลากหลาย รวมถึงเทมเพลตสำหรับแพ็คเกจสินค้า ช่วยให้สร้างการออกแบบที่สวยงามได้อย่างง่ายดาย

สรุป

การออกแบบแพคเกจจิ้ง คือหนึ่งในสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยสำหรับเจ้าของแบรนด์ เพราะพลังของแพคเกจจิ้งจะไม่ใช่แค่ทำให้สินค้าของคุณดูสวยขึ้น แต่เป็นการเพิ่มยอดขาย เอาชนะคู่แข่ง และอยู่รอดในการตลาดยุคออนไลน์


Tumtook คิดถึงงานพิมพ์ คิดถึงทำถูก

www.Tumtook.com

Comment Box

บทความดีๆที่แนะนำ

ผู้ประกอบธุรกิจ SME อยากจะหาวิธีนำเสนอบรรจุภัณฑ์เบเกอรี...

เมื่อเอ่ยถึง ถาดกระดาษใส่อาหารพิมพ์ลาย เชื่อได้เลยว่าคง...

การเลือกซื้อป้าย Backdrop ราคาถูก เพื่อให้งานแสดงสินของ...

หากจะสั่งผลิตกล่องแพคเกจจิ้งกับโรงพิมพ์กล่องแพคเกจจิ้ง ...